ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการบริโภคอาหารเปลี่ยนไปจากเดิม ยกตัวอย่างเช่น การสั่งซื้ออาหารสดออนไลน์ หรืออาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน นี่จึงป็นเหตุผลสำคัญของระบบขนส่งที่สามารถรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าได้ ระบบนั้นก็คือ Cold Chain Logistics หรือ ระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ” นั่นเอง

Cold Chain Logistics ขนส่งควบคุมอุณหภูมิ คืออะไร?

ทำไมธุรกิจอาหารต้องใช้ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ

Cold Chain Logistics ขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ คือ กระบวนการจัดการในการเก็บรักษาและกระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ อย่างครบวงจร ซึ่งระบบขนส่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมสำหรับสินค้าแต่ละประเภท เพื่อให้สินค้าคงความสดใหม่ รักษาคุณภาพ และยืดอายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ตั้งแต่เริ่มจนถึงปลายทาง

สินค้าที่ต้องใช้ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ Cold Chain Logistics เป็นหลัก ได้แก่:

  • กลุ่มอาหาร: เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ อาหารสำเร็จรูป อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์จากนม
  • เครื่องดื่ม: ไวน์ เบียร์ และเหล้า เพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติของเครื่องดื่ม
  • กลุ่มทางการแพทย์: ผลิตภัณฑ์กลุ่มยา เวชภัณฑ์ วัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • ดอกไม้: ดอกไม้ และผลิตภัณฑ์พืช อาทิ ต้นกล้า เมล็ดพันธุ์
  • กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ชิปเซ็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความไวต่ออุณหภูมิ

องค์ประกอบสำคัญ 4 ประการของ Cold Chain Logistics

เพื่อให้การขนส่งควบคุมอุณหภูมิ ขนส่งห้องเย็น ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ จะต้องมีองค์ประกอบหลักเหล่านี้เชื่อมโยงกัน

  1. ระบบทำความเย็น (Cooling System) คือวิธีการลดและรักษาระดับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับประเภทสินค้า เช่น การใช้น้ำแข็ง น้ำเย็น, การแช่แข็ง หรือระบบสุญญากาศ
  2. คลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storage) เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยอุณหภูมิอาจต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส หรือเป็นอุณหภูมิติดลบ ขึ้นอยู่กับสินค้าที่จัดเก็บ
  3. รถห้องเย็น (Cold Transport) คือยานพาหนะหลักในการขนส่งเย็น เช่น รถ 4 ล้อ, 6 ล้อ, 10 ล้อ หรือรถเทรลเลอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ในระบบปิด ตลอดเส้นทางการขนส่งเพื่อคงความสมบูรณ์ของสินค้า
  4. การแปรรูปและการจัดจำหน่าย (Cold Processing and Distribution) คือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับบรรจุภัณฑ์ การแปรรูป การรวมหรือแยกส่วนประกอบ และการรับรองด้านสุขอนามัย เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าและลดการสูญเสีย

ทำไมธุรกิจอาหารต้องใช้ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิ?

สำหรับธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในไทยหรือผู้ส่งออก ระบบ Cold Chain Logistics เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก “ห้ามมองข้าม” โดยเด็ดขาด เพราะในธุรกิจอาหาร อาหารจำนวนมากต้องการ “ความสดใหม่ ปลอดภัย และปราศจากการปนเปื้อน” ตลอดกระบวนการจัดส่ง หากการขนส่งไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับประเภทสินค้าได้ จะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น

  • สินค้าเน่าเสีย/เสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็ว ก่อนถึงมือผู้บริโภค
  • เกิดการปนเปื้อน เนื่องจากแบคทีเรียและเชื้อโรคสามารถเติบโตได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
  • ธุรกิจเสียภาพลักษณ์ อาจนำไปสู่การร้องเรียนจากลูกค้าบ่อยครั้ง และส่งผลให้ยอดขายลดลง

ข้อดีและประโยชน์ของขนส่งควบคุมอุณหภูมิ Cold Chain

การใช้บริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจอาหารอย่างมาก

  1. รักษาคุณภาพสินค้า: ช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าอาหารให้สมบูรณ์ ตั้งแต่ขั้นตอนผลิตจนถึงมือผู้บริโภค
  2. ยืดอายุการเก็บรักษา: ช่วยเก็บรักษาสินค้าให้อยู่ได้นานตามอายุการเก็บรักษา (Shelf Life)
  3. ลดการสูญเสีย: ช่วยลดโอกาสปนเปื้อนและลดปัญหาการสูญเสียอาหาร (Food Loss) หรือขยะอาหาร (Food Waste)
  4. เพิ่มความปลอดภัยและมาตรฐานสากล: ช่วยยกระดับคุณภาพและเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้าอาหาร (Food Safety) สู่ระดับสากล
  5. สร้างความน่าเชื่อถือ: การรักษาอาหารให้สดใหม่และมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้าง Brand Loyalty ให้กับผู้บริโภค

Cold Chain Logistics ทำงานอย่างไร?

กระบวนการแบบ Step-by-Step ของการขนส่งควบคุมอุณหภูมิจะเน้นการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับอายุการเก็บรักษาสินค้า และจัดการระยะเวลาในกระบวนการให้สั้นที่สุด โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้

Step 1: กระบวนการผลิต (Production) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสินค้า เช่น อาหาร ยา หรือเวชภัณฑ์ มักมีการควบคุมอุณหภูมิตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเก็บวัตถุดิบและกระบวนการผลิต เพื่อช่วยลดการสูญเสียคุณภาพของวัตถุดิบและยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์

Step 2: การจัดเก็บสินค้า (Cold Storage) สินค้าจะถูกจัดเก็บในคลังสินค้าห้องเย็น ไม่ว่าจะรูปแบบระยะยาวหรือระยะสั้น เพื่อรอการแปรรูป การบรรจุ หรือการกระจายสินค้า การจัดเก็บนี้ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ตามประเภทสินค้านั้นๆ

Step 3: การบรรจุและการดำเนินการในห้องเย็น (Cold Processing and Packaging) กิจกรรมการบรรจุและการแปรรูปสินค้าจะดำเนินการภายในพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิหรือห้องเย็นที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถเอื้อต่ออายุการเก็บรักษาของสินค้าร่วมด้วย

Step 4: การกระจายสินค้า (Cold Distribution) นี่คือขั้นตอนการขนส่งหลัก โดยใช้รถห้องเย็น ขนส่งควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นระบบปิดที่รักษาและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างคงที่ตลอดเส้นทางการจัดส่ง รถขนส่งห้องเย็นมักมีการติดตั้งระบบติดตาม GPS และตรวจสอบอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ (Real-time) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของสินค้าจนถึงสถานที่ปลายทาง

Step 5: การจำหน่ายสู่ผู้บริโภค (Point of Sale) แม้สินค้าจะถึงปลายทางแล้ว จุดจำหน่ายหรือที่จัดวางสินค้าก็ยังต้องมีการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค เช่น ตู้แช่เย็นหรือตู้แช่แข็งในร้านค้าปลีก หรือห้างสรรพสินค้า

สรุป

Cold Chain Logistics คือระบบสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจอาหารสามารถรักษาความสดใหม่และคุณภาพของสินค้าได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค

  1. Cold Chain คือการควบคุมทุกขั้นตอน: ระบบนี้เกี่ยวข้องกับการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในทุกกิจกรรม ตั้งแต่การผลิต > คลังสินค้าห้องเย็น > รถห้องเย็น > ไปจนถึงจุดจำหน่าย
  2. ป้องกันความเสียหายและลดต้นทุน: การควบคุมอุณหภูมิช่วยลดการเน่าเสีย, การปนเปื้อน (Food Loss/Food Waste) และช่วยลดต้นทุนที่เกิดจากการสูญเสียสินค้า
  3. ความสำคัญของผู้เชี่ยวชาญ: การจัดการ Cold Chain Logistics แตกต่างจากการจัดการโลจิสติกส์ทั่วไป เพราะต้องการผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีและคุ้นเคยกับกระบวนการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Error) และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน: ลองนึกถึง Cold Chain Logistics เหมือนกับ เส้นเลือดใหญ่ของร่างกาย ที่ต้องรักษาอุณหภูมิของเลือดให้คงที่เสมอ เพื่อลำเลียงสารอาหาร (สินค้า) ไปยังอวัยวะ (จุดจำหน่าย) ต่างๆ อย่างปลอดภัย หากอุณหภูมิในเส้นเลือดเปลี่ยนแปลงไปแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต (คุณภาพสินค้า) ในทันที